หมายเหตุ: เราได้เลิกใช้งานรายงานเครือข่าย AdMob, การเสนอราคา และสื่อกลางแล้ว ตอนนี้รายงานสื่อกลางและรายงานเครือข่าย AdMob เปลี่ยนเป็นรายงานสําเร็จรูปแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานกิจกรรมโฆษณา
คุณจะยังดูรายงานการเสนอราคาเดิมเหล่านี้ได้ แต่จะอัปเดตหรือบันทึกไม่ได้ ระบบได้ย้ายข้อมูลรายงานเดิมเกี่ยวกับเครือข่าย AdMob หรือสื่อกลางที่บันทึกไว้ทั้งหมดไปยังรายงานกิจกรรมโฆษณาเมื่อช่วงต้นปี 2023 แล้ว
รายงานการเสนอราคาเป็นรายงานเริ่มต้นที่สร้างไว้ล่วงหน้าจาก AdMob ใช้เป็นรายงานแบบสแตนด์อโลนได้ หรือคุณอาจเปลี่ยนแปลงตัวกรอง มิติข้อมูล และเมตริก และบันทึกเป็นรายงานใหม่ได้
ตัวกรอง
ตัวกรองจะทำหน้าที่ซ่อนข้อมูลที่ไม่จำเป็นหรือไม่ต้องการจากรายงาน การเลือกตัวกรองคือการกำหนดสิ่งที่คุณต้องการให้มีในรายงาน และ AdMob จะซ่อนทุกสิ่งที่ไม่ตรงกับเกณฑ์ในตัวกรอง
รายการต่อไปนี้จะใช้ได้กับรายงานนี้และรายงานที่บันทึกไว้ที่ใช้เป็นเทมเพลต
- เลือกช่องทำเครื่องหมายข้างๆ แอปที่คุณต้องการกรอง คุณเลือกได้หลายช่อง ข้อมูลสำหรับแอปที่เลือกจะแสดงในรายงาน คุณใช้ช่องค้นหาเพื่อหาแอปที่ต้องการตามชื่อได้
- คลิกใช้เพื่อใช้ตัวกรองกับรายงาน
- หากต้องการเพิ่มตัวกรองอื่น ให้คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วเลือกอีกครั้ง
- ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากหน่วยโฆษณาที่คุณต้องการใช้กรอง คุณเลือกได้หลายช่อง ข้อมูลสำหรับหน่วยโฆษณาที่เลือกจะปรากฏในรายงาน คุณใช้ช่องค้นหาเพื่อค้นหาหน่วยโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจงตามชื่อได้
- คลิกใช้เพื่อใช้ตัวกรองกับรายงาน
- หากต้องการเพิ่มตัวกรองอื่น ให้คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วเลือกอีกครั้ง
- ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากภูมิภาคหรือประเทศที่คุณต้องการใช้กรอง คลิกปุ่มลูกศรเพื่อแสดงประเทศในแต่ละภูมิภาคหากต้องการกรองแบบละเอียดมากขึ้น
- คลิกใช้เพื่อใช้ตัวกรองกับรายงาน
- หากต้องการเพิ่มตัวกรองอื่น ให้คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วเลือกอีกครั้ง
- ทำเครื่องหมายในช่องข้างๆ แหล่งที่มาของโฆษณาที่ต้องการกรอง
- คลิกใช้เพื่อใช้ตัวกรองกับรายงาน
- หากต้องการเพิ่มตัวกรองอื่น ให้คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วเลือกอีกครั้ง
- เลือกช่องทำเครื่องหมายข้างๆ รูปแบบที่คุณต้องการกรองหมายเหตุ: คุณเลือกช่องทําเครื่องหมายได้หลายช่อง ข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยโฆษณาที่ใช้รูปแบบที่เลือกจะแสดงในรายงาน
- คลิกใช้เพื่อใช้ตัวกรองกับรายงาน
- หากต้องการเพิ่มตัวกรองอื่น ให้คลิกเพิ่มตัวกรอง แล้วเลือกอีกครั้ง
มิติข้อมูล
มิติข้อมูลจะทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดวิธีจัดระเบียบรายงาน เช่น หากต้องการดูรายได้แบ่งตามประเทศ คุณจะต้องเพิ่มมิติข้อมูลประเทศ การเพิ่มมิติข้อมูลใหม่ๆ จะเป็นการปรับแต่งและจัดระเบียบข้อมูลใหม่
รายการต่อไปนี้จะใช้ได้กับรายงานนี้และรายงานที่บันทึกไว้ที่ใช้เป็นเทมเพลต
- แหล่งที่มาของโฆษณา: ดูประสิทธิภาพตามแหล่งที่มาของโฆษณา แหล่งที่มาของโฆษณาจะวัดการเข้าชมที่ได้รับจากสื่อกลางต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงการขายตรง เหตุการณ์ที่กำหนดเอง โฆษณาเฮาส์แอ็ด หรือเครือข่ายโฆษณาบุคคลที่สาม
- หน่วยโฆษณา: ดูประสิทธิภาพของหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วย
- แอป: ดูประสิทธิภาพตามแอป
-
เวอร์ชันแอป: ดูประสิทธิภาพตามเวอร์ชันแอป เวอร์ชันแอปจะเปลี่ยนไปตามการอัปเดตแอปแต่ละครั้งหมายเหตุ: ข้อมูลเวอร์ชันแอปจะใช้ไม่ได้กับการรายงาน AdMob ก่อนวันที่ 19 กรกฎาคม 2020
- ประเทศ: ดูประสิทธิภาพโดยแบ่งตามประเทศของผู้เข้าชมที่ดูโฆษณาบนแอปของคุณ
- วันที่: ดูประสิทธิภาพตามวันที่
- รูปแบบ: ดูประสิทธิภาพตามรูปแบบโฆษณา (เช่น แบนเนอร์ โฆษณาคั่นระหว่างหน้า)
หากอัปเกรดหน่วยโฆษณาจาก AdMob แบบเดิมแล้ว คุณอาจเห็นตัวเลือก "แบบใดก็ได้" แสดงภายในรูปแบบด้วย นี่เป็นการระบุว่าหน่วยโฆษณาจะส่งคำขอโฆษณาแบนเนอร์หรือโฆษณาคั่นระหว่างหน้าก็ได้ ซึ่งจะมีผลเฉพาะกับหน่วยโฆษณาที่อัปเกรดมาจาก AdMob เดิมเท่านั้น (ก่อนปี 2014) และหน่วยโฆษณาใหม่ทั้งหมดที่สร้างขึ้นใน AdMob จะเป็นแบนเนอร์หรือโฆษณาคั่นระหว่างหน้า
- กลุ่มสื่อกลาง: ดูประสิทธิภาพตามกลุ่มสื่อกลาง
- เดือน: ดูประสิทธิภาพตามเดือน
- แพลตฟอร์ม: ดูประสิทธิภาพแยกตามแพลตฟอร์มอุปกรณ์
- Android
- iOS
เมตริก
เมตริกจะทำหน้าที่เป็นตัวบ่งบอกประเภทของข้อมูลหรือค่าที่อยู่ในรายงาน โดยมักจะจัดเป็นคอลัมน์และประกอบด้วยตัวเลขหรือเปอร์เซ็นต์ เมื่อมีการเพิ่มมิติข้อมูล ระบบจะคำนวณค่าของเมตริกใหม่โดยอิงตามลำดับใหม่หรือการจัดกลุ่มที่มิติข้อมูลสร้างขึ้น การเพิ่มหรือนำเมตริกออกจะเพิ่มหรือนำคอลัมน์ข้อมูลออกจากรายงาน
รายการต่อไปนี้จะใช้ได้กับรายงานนี้และรายงานที่บันทึกไว้ที่ใช้เป็นเทมเพลต
จำนวนราคาเสนอที่ส่งจากแหล่งที่มาของโฆษณาที่เข้าร่วมการประมูลเสนอราคา
หมายเหตุ: การเสนอราคาบางรายการอาจไม่เข้าร่วมการประมูลเสนอราคา ราคาเสนอต้องตรงตามเกณฑ์การประมูล เช่น eCPM ขั้นต่ำหรือประเภทของรูปแบบโฆษณา
เปอร์เซ็นต์ของราคาเสนอที่เข้าร่วมการประมูลเสนอราคา
คำนวณได้โดยการหารราคาเสนอในการประมูลด้วยคำขอราคาเสนอ ดังนี้
ราคาเสนอในการประมูล / คำขอราคาเสนอ
ตัวอย่างเช่น หากแหล่งที่มาของโฆษณาที่ส่งการเสนอราคา 20 ครั้งจากคำขอราคาเสนอ 1,000 ครั้งจะคิดเป็น 2%
จํานวนคําขอที่ส่งไปยังแหล่งที่มาของโฆษณาซึ่งใช้การเสนอราคา
จำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณา
รายได้โดยประมาณที่ได้จากการแสดงผลทุกๆ 1,000 ครั้งที่โฆษณาได้รับ ซึ่งคำนวณโดยการหารรายได้โดยประมาณด้วยจำนวนการแสดงผลที่ได้รับ แล้วคูณด้วย 1,000 ดังนี้
(รายได้โดยประมาณ / การแสดงผล) * 1,000
จำนวนคำขอโฆษณาที่มีสิทธิ์ในการเสนอราคา
คำขอโฆษณาจะต้องส่งไปยังกลุ่มสื่อกลางที่มีแหล่งที่มาของโฆษณาซึ่งใช้การเสนอราคา เพื่อให้มีสิทธิ์ในการเสนอราคา และแหล่งที่มาของโฆษณานั้นจะต้องเข้าร่วมการประมูลหน่วยโฆษณานั้นได้
รายได้ที่คุณได้รับจนถึงปัจจุบัน จำนวนนี้เป็นค่าประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อรายได้ของคุณได้รับการยืนยันความถูกต้องทุกสิ้นเดือน
หมายเหตุ: รายได้จากแหล่งที่มาของโฆษณาซึ่งใช้การเสนอราคาส่วนใหญ่จะจ่ายผ่าน AdMob ส่วนรายได้จากแหล่งที่มาของโฆษณาที่ชำระเงินโดยตรงจะจ่ายให้แก่คุณโดยตรงจากแหล่งที่มาของโฆษณา
จำนวนโฆษณาทั้งหมดที่แสดงต่อผู้ใช้
จํานวนราคาเสนอที่ชนะการประมูลเสนอราคา
เปอร์เซ็นต์ของราคาเสนอที่ชนะการประมูลเสนอราคา
คำนวณได้โดยการหารราคาเสนอที่ชนะด้วยราคาเสนอในการประมูล
ราคาเสนอที่ชนะ / ราคาเสนอในการประมูล
จำนวนราคาเสนอที่ชนะซึ่งทำให้โฆษณาแสดงในแอปของคุณ
หมายเหตุ: หากมีแหล่งที่มาของโฆษณาในการแสดงโฆษณาสื่อกลางตามลำดับขั้นที่มี eCPM สูงกว่าราคาเสนอที่ชนะ เราจะเรียกแหล่งที่มาของโฆษณานั้นก่อน ไม่ใช่ราคาเสนอที่ชนะการเสนอราคา อย่างไรก็ตาม หากไม่มีโฆษณาให้แสดง แหล่งที่มาของโฆษณาซึ่งใช้การเสนอราคาจะแสดงโฆษณา
เปอร์เซ็นต์ของราคาเสนอที่ชนะซึ่งทำให้โฆษณาแสดงในแอปของคุณ
คำนวณได้โดยการหารราคาเสนอที่ชนะและตรงกันด้วยราคาเสนอที่ชนะ
ราคาเสนอที่ชนะและตรงกัน / ราคาเสนอที่ชนะ
ตัวอย่างเช่น หากแหล่งที่มาของโฆษณาแสดงโฆษณา 10 รายการจากการชนะการประมูล 100 ครั้ง ราคาเสนอที่ชนะและตรงกันจะเท่ากับ 10%