สร้างรายได้จากพื้นที่โฆษณาที่ยังไม่มีผู้ซื้อด้วย Ad Manager ผ่าน AdSense หรือ Ad Exchange เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด หากต้องการเปิดใช้งานการสร้างรายได้ผ่าน Ad Exchange ให้ใช้รายการโฆษณา Ad Exchange
แนวทางปฏิบัติแนะนำของ Ad Exchange
- หลีกเลี่ยงการกำหนดความถี่สูงสุดให้กับรายการโฆษณา Ad Exchange
วิธีนี้ทำให้ Ad Exchange แข่งขันกับรายการโฆษณาอื่นได้บ่อยที่สุดเพื่อเพิ่มรายได้สูงสุด
- ปิดใช้งานการสร้างรายได้จากหน่วยโฆษณาของ AdSense
ระบบเรียกใช้ AdSense และ Ad Exchange พร้อมกันไม่ได้ แนวทางปฏิบัติแนะนำคือการปิดใช้งาน AdSense เมื่อใช้ Ad Exchange
- อัปเดต CPM หรือ CPM มูลค่าของรายการโฆษณาซึ่งแสดงถึงพื้นที่โฆษณาที่ยังไม่มีผู้ซื้อเป็นประจำ
การจัดสรรแบบไดนามิกช่วยให้ Ad Exchange แข่งขันกับรายการโฆษณาซึ่งแสดงถึงพื้นที่โฆษณาที่ยังไม่มีผู้ซื้อโดยอิงตาม CPM (มูลค่า) ของรายการโฆษณาเหล่านั้น Ad Exchange จึงแสดงโฆษณาเฉพาะเมื่อเอาชนะอัตราที่แข่งขันกันของรายการโฆษณาเหล่านี้ได้ ดูแลให้อัตราต่างๆ ถูกต้องอยู่เสมอเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดสำหรับพื้นที่โฆษณา
หากมีการตั้งค่าอัตรา CPM และ CPM มูลค่าไว้ Ad Exchange จะแข่งขันกับ CPM มูลค่าของรายการโฆษณาดังกล่าว
อัตราการส่งโฆษณาและ CPM: ใช้ CPM มูลค่าเมื่อคุณทราบอัตราการส่งโฆษณาของเครือข่ายที่แข่งขัน ในการคำนวณ CPM มูลค่า ให้คูณอัตรา CPM ของเครือข่ายด้วยอัตราการส่งโฆษณา ตัวอย่าง: หากคุณมีอัตรา CPM $2.00 และอัตราการส่งโฆษณา 75% คุณควรกำหนด CPM มูลค่าไว้ที่ $1.50
ฉันควรสร้างรายการโฆษณากี่รายการ
วิธีที่ดีที่สุดในการดูแลการแสดงรายการโฆษณา Ad Exchange ใน Ad Manager คือการสร้างรายการโฆษณารายการเดียวต่อพื้นที่โฆษณาแต่ละประเภท (หรือที่ผ่านมาเรียกว่าประเภทของสภาพแวดล้อมหรือประเภทการเผยแพร่) หรือรวมรายการโฆษณาที่มีอยู่ไว้ในรายการโฆษณาเดียว จากนั้นจัดกลุ่มรวมกันไว้ในคำสั่งซื้อเดียวต่อบัญชี
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีทั้งพื้นที่โฆษณาประเภท "ดิสเพลย์" และ "แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่" ให้ไปที่การแสดงโฆษณา คำสั่งซื้อเพื่อสร้างคำสั่งซื้อใหม่ จากนั้นจึงดำเนินการดังต่อไปนี้
- สร้างรายการโฆษณา 1 รายการสำหรับพื้นที่โฆษณา "แบบดิสเพลย์"
- ตั้งค่า "ประเภท" รายการโฆษณาเป็น Ad Exchange
- ตั้งค่า "ชื่อแทนของเว็บพร็อพเพอร์ตี้" เป็นพร็อพเพอร์ตี้ Ad Exchange แบบดิสเพลย์
- กำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่โฆษณาแบบแสดงทั่วเครือข่ายและทุกขนาดที่คุณต้องการสร้างรายได้
- สร้างรายการโฆษณาอีกรายการหนึ่งสำหรับพื้นที่โฆษณา "แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่"
- ตั้งค่า "ประเภท" รายการโฆษณาเป็น Ad Exchange
- ตั้งค่า "ชื่อแทนของเว็บพร็อพเพอร์ตี้" เป็นพร็อพเพอร์ตี้ Ad Exchange แบบในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- กำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่โฆษณาแบบแสดงทั่วเครือข่ายและทุกขนาดที่คุณต้องการสร้างรายได้
- โดยค่าเริ่มต้น จะไม่มีการกำหนดเป้าหมายหน่วยโฆษณาพิเศษ คุณต้องกำหนดเป้าหมายรายการดังกล่าวอย่างชัดแจ้งหากต้องการกำหนดเป้าหมายพื้นที่โฆษณาทั้งชุด
- รายการโฆษณา Ad Exchange ในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีสิทธิ์รับคำขอ Ad Manager ในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น และรายการโฆษณาแบบดิสเพลย์ของ Ad Exchange มีสิทธิ์รับคำขอ Ad Manager แบบดิสเพลย์เท่านั้น
คุณอาจต้องมีรายการโฆษณา Ad Exchange หลายรายการสำหรับประเภทพื้นที่โฆษณาแต่ละประเภทในกรณีต่อไปนี้
- คุณใช้รายการโฆษณาวิดีโอ Ad Exchange เนื่องจากในปัจจุบันรายการโฆษณาดังกล่าวมีการกำหนดค่าขั้นสูง
- คุณต้องกำหนดเป้าหมายบัญชี Ad Exchange มากกว่า 1 บัญชีด้วยเหตุผลด้านการทำบัญชี การเข้าถึง หรือการทำสัญญา เราไม่แนะนำให้ใช้การกำหนดค่านี้ แต่ขอแนะนำให้รวมการดำเนินการต่างๆ ไว้ในบัญชี Ad Exchange ที่เป็นค่าเริ่มต้นของคุณแทน
- คุณต้องป้องกันไม่ให้โฆษณาเนทีฟ Ad Exchange แข่งขันกับโฆษณาแบนเนอร์ปกติ ซึ่งในกรณีนี้ คุณต้องมีรายการโฆษณา Ad Exchange ที่มีขนาดพื้นที่โฆษณา "เนทีฟ" เพียงอย่างเดียว
ใช้ครีเอทีฟโฆษณาและการกำหนดราคาแบบหลายขนาด
วิธีสร้างครีเอทีฟโฆษณาแบบหลายขนาดในรายการโฆษณา Ad Exchange
- เลือกสร้างครีเอทีฟโฆษณาโดยอัตโนมัติในรายการโฆษณา Ad Exchange สำหรับรายการโฆษณาที่ไม่มีครีเอทีฟโฆษณาที่ใช้งานอยู่เลย Ad Manager จะสร้างครีเอทีฟโฆษณาเดียวซึ่งมีขนาดพื้นที่โฆษณาทั้งหมดที่รวมไว้ในส่วน "ครีเอทีฟโฆษณาที่คาดไว้" ในรายการโฆษณาดังกล่าว
- หากมีครีเอทีฟโฆษณาเดิมอยู่ การคลิกสร้างครีเอทีฟโฆษณาโดยอัตโนมัติจะปิดใช้งานครีเอทีฟโฆษณาเดิมและสร้างครีเอทีฟโฆษณาใหม่ที่มีขนาดพื้นที่โฆษณาทั้งหมดที่รวมไว้ในส่วน "ครีเอทีฟโฆษณาที่คาดไว้" ในรายการโฆษณาดังกล่าว
โอกาสในการเพิ่มรายได้ด้วยการกำหนดราคาแบบหลายขนาด
ตั้งค่าการกำหนดราคาแบบหลายขนาดในกฎการกำหนดราคาแบบรวม การตั้งค่าการกำหนดราคาที่ต่างกันสำหรับขนาดต่างๆ ช่วยให้คุณเรียกเก็บเงินได้มากขึ้นสำหรับพื้นที่โฆษณาที่มีขนาดใหญ่กว่า
การตั้งค่าการกำหนดราคาแบบหลายขนาดหมายความว่าโปรแกรมเสนอราคาที่ตอบกลับด้วยขนาดโฆษณาที่ต่างกันจะแข่งขันกันเอง โดยทั่วไปการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะได้รับรายได้สูงขึ้นในการประมูล
ลำดับความสำคัญของรายการโฆษณา Ad Exchange
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแก้ไขลำดับความสำคัญของรายการโฆษณา Ad Exchange
- รายการโฆษณาซึ่งแสดงถึงพื้นที่โฆษณาที่ยังไม่มีผู้ซื้อ: อย่าตั้งค่าลำดับความสำคัญสูงกว่า 12 (ตัวเลขที่ต่ำกว่า 12)
- รายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผล: อย่าตั้งค่าลำดับความสำคัญต่ำกว่า 11 (ตัวเลขที่มากกว่า 11)
หากทำ อาจเกิดลักษณะการทำงานที่ไม่คาดคิด
ใช้การควบคุมอื่นๆ แทนการกำหนดเป้าหมายรายการโฆษณา
รายการโฆษณา Ad Exchange อนุญาตให้คุณเพิ่มการกำหนดเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม แนวทางปฏิบัติแนะนำคือควรกำหนดเป้าหมายรายการโฆษณา Ad Exchange ให้กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Ad Manager มีการควบคุมที่ดีกว่าซึ่งเปิดโอกาสให้คุณจัดการธุรกรรมได้ ดังนี้
- กฎการกำหนดราคาแบบรวม: ตั้งค่าการกำหนดราคาสำหรับพื้นที่โฆษณาและขนาดพื้นที่โฆษณาต่างๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎการกำหนดราคาแบบรวม
- การป้องกัน: การป้องกันช่วยให้คุณจัดการแบรนด์ หลีกเลี่ยงไม่ให้โฆษณาของผู้ลงโฆษณาคู่แข่งแสดงร่วมกัน และกำหนดพื้นที่โฆษณา (หากมี) ที่ต้องการให้พร้อมใช้งาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกัน
- URL: URL ระบุโดเมนและเส้นทางที่คุณเป็นตัวแทนหรือได้รับอนุญาตให้ขายโฆษณา รวมถึงควบคุมการแสดงพื้นที่โฆษณาเป็นแบบ "แสดงแบรนด์" หรือ "เปิดเผยบางส่วน" ตามที่คุณต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ URL
ตำแหน่งโฆษณา Ad Manager ในรายงาน Ad Exchange
และคุณยังแมปตำแหน่งโฆษณา Ad Manager กับแชแนลใน Ad Exchange เพื่อให้แสดงในรายงานได้ด้วย แชแนลใน Ad Exchange จะรวมเฉพาะข้อมูลหลังจากการสร้างหรือการอัปเดตแชแนลเท่านั้น
ครีเอทีฟโฆษณา Ad Exchange ผ่านรายการโฆษณาที่ไม่ใช่ Ad Exchange
เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากการจัดสรรแบบไดนามิก แนวทางปฏิบัติแนะนำคือหลีกเลี่ยงการแสดงครีเอทีฟโฆษณา Ad Exchange เป็นครีเอทีฟโฆษณาบุคคลที่สามในรายการโฆษณาที่ไม่ใช่ Ad Exchange เช่น ในรายการโฆษณาเครือข่าย แต่ให้แสดงครีเอทีฟโฆษณาผ่านรายการโฆษณา Ad Exchange ใน Ad Manager ร่วมกับการควบคุมและกฎอื่นๆ แทน