กลุ่มอาจประกอบด้วยตัวระบุอย่างน่อย 1 หมวดหมู่โดยขึ้นอยู่กับวิธีสร้าง เราขอแนะนำให้รวมข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของตัวระบุในชื่อของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ตัวอย่าง
"ผู้ที่สนใจเรื่องกีฬา (AdID)" จะเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยผู้เข้าชมแอป Android ของคุณ
ประเภทของตัวระบุ
โซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะใช้ตัวระบุต่อไปนี้ในกลุ่มของตน
คุกกี้เบราว์เซอร์
สำหรับการเข้าชมหน้าเว็บบนเดสก์ท็อป (หรือหน้าเว็บที่เข้าถึงทางเบราว์เซอร์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่) โซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะใช้คุกกี้เบราว์เซอร์สำหรับเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ (เช่น Chrome, Firefox หรือ Explorer) ซึ่งหมายความว่าถ้าผู้ใช้เข้าชมหน้าเว็บด้วย Firefox แล้วกลับมาใช้ Chrome ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันในภายหลัง โซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะพิจารณาแยกเป็นผู้ใช้สองคน
คุกกี้ของเบราว์เซอร์เป็นตัวแทนของเบราว์เซอร์มากกว่าผู้ใช้ คุณสามารถใช้ PPID สำหรับการกำหนดความถี่สูงสุดหรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้นี้ในเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ต่างๆ
รหัสโฆษณาของอุปกรณ์
เมื่อได้รับคำขอโฆษณาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่เว็บ (เช่นภายในแอปพลิเคชันมือถือหรืออุปกรณ์รับสัญญาณ Roku) รหัสโฆษณาของอุปกรณ์จะรวมอยู่ในคำขอโฆษณา รหัสนี้จะต้องตั้งค่าใหม่ได้โดยผู้ใช้และเป็นไปตามตัวเลือกของผู้ใช้เพื่อจำกัดหรือเลือกไม่ใช้การติดตามการโฆษณา
โซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มตัวระบุนี้ไปยังกลุ่มเมื่อผ่านเกณฑ์การเป็นสมาชิก หากไม่มี PPID ในคำขอโฆษณา รหัสโฆษณาของอุปกรณ์ที่เพิ่มไปยังกลุ่มใช้ได้กับการกำหนดเป้าหมายโฆษณาของกลุ่มที่ได้รับคำขอจากอุปกรณ์เดียวกันเท่านั้น ด้วยวิธีนี้ รหัสโฆษณาของอุปกรณ์จะติดตามอุปกรณ์มากกว่าผู้ใช้
ตัวอย่างบางส่วนของรหัสโฆษณาอุปกรณ์ที่สนับสนุนในปัจจุบันมีดังนี้
แพลตฟอร์ม | ตัวระบุ |
---|---|
Android | AdID: สำหรับคำขอโฆษณาจากแอป Android โซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่ม AdID ไปยังกลุ่ม (หากไม่มี PPID ในคำขอ) |
iOS | IDFA: สำหรับคำขอโฆษณาจากแอป iOS โซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่ม IDFA ไปยังกลุ่ม (หากไม่มี PPID ในคำขอ) |
อุปกรณ์อื่นๆ | แตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ (เช่น รหัส Roku) สำหรับการเข้าชมไปยังเนื้อหาของคุณผ่านทางบริการเหล่านี้และอื่น ๆ โซลูชันกลุ่มเป้าหมายใช้รหัสที่ใช้บังคับกับสร้างกลุ่ม (หากไม่มี PPID ในคำขอ) เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายกลุ่มที่รวมรหัสอุปกรณ์นี้ ผู้เข้าชมจำเป็นต้องเข้าชมผ่านบริการเดียวกัน |
ตัวระบุที่ผู้เผยแพร่โฆษณามีให้ (PPID)
PPID หรือตัวระบุที่ผู้เผยแพร่โฆษณามีให้จะนำมาใช้ควบคู่ไปกับตัวระบุอื่นๆ ได้ และต้องกำหนดไว้ในคำขอโฆษณาของคุณ PPID เป็นตัวระบุหลายอุปกรณ์และสามารถใช้ได้ในสถานการณ์ต่างๆ เมื่อตัวระบุอื่นๆ ไม่สามารถใช้ได้ เช่น ในระหว่างการร้องขอฝั่งเซิร์ฟเวอร์หรือในแอปเดสก์ท็อป
PPID มีวัตถุประสงค์เพื่อระบุผู้ใช้ 1 คนในหลายอุปกรณ์ ในทางกลับกัน ตัวระบุอื่นๆ (เช่น คุกกี้ของเบราว์เซอร์หรือรหัสอุปกรณ์) ที่แทนอุปกรณ์หนึ่ง (อาจมีผู้ใช้หลายคนในกรณีที่แชร์อุปกรณ์)
- หากต้องการให้ทำงานหลายอุปกรณ์ คุณจะต้องส่ง PPID ในแท็กโฆษณาไปยังแต่ละอุปกรณ์ที่สามารถระบุผู้ใช้ได้
- เมื่อใช้ PPID คำขอโฆษณาจะมีทั้ง PPID และตัวระบุอื่น (เช่น คุกกี้ของเบราว์เซอร์หรือรหัสอุปกรณ์) PPID และตัวระบุอื่นๆ จะอยู่ในชุดค่าผสมของกลุ่มเป้าหมายก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีเพิ่มตัวระบุไปยังกลุ่ม
- หากคำขอโฆษณามีทั้ง PPID และตัวระบุอื่น
- Ad Manager สามารถแสดงโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มที่มี PPID หรือตัวระบุอื่นๆ
- หากคำขอโฆษณามีทั้ง PPID และตัวระบุอื่น Ad Manager จะใช้ PPID ในการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของความเป็นสมาชิกกลุ่มเท่านั้น เช่น พิจารณาว่าตอนนี้ตัวระบุอยู่ในกลุ่มใหม่ หรือควรรีเฟรชวันหมดอายุของตัวระบุในกลุ่มหนึ่ง
- PPID ใช้ได้กับกลุ่มบุคคลที่หนึ่งเท่านั้น
- กลุ่ม PPID สามารถแชร์กับบัญชี Ad Exchange ที่เชื่อมโยงไว้และใช้สำหรับการกำหนดเป้าหมายการแสดงผลที่แสดงผ่าน Ad Manager
- นอกเหนือจากดีล Ad Exchange หรือการประมูลส่วนตัวแล้ว กลุ่ม PPID จะแชร์กับผลิตภัณฑ์หรือเครือข่ายอื่นๆ ไม่ได้
แชร์ตัวระบุกับหลายกลุ่ม
กลุ่มอาจประกอบด้วยตัวระบุประเภทต่างๆ และตัวระบุประเภทเดียวกันอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มต่างๆ และประเภทต่างๆ ของกลุ่ม (เช่นเป็นบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม)
หากตัวระบุกลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกของกลุ่มบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามหลายกลุ่ม คำขอโฆษณาที่มีตัวระบุนี้จะมีสิทธิ์ได้รับรายการโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มที่ผสมกันเหล่านี้