ใช้การจัดสรรแบบไดนามิกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลทั้งหมด

Ad Manager ช่วยให้คุณได้รับราคาสูงสุดสำหรับการแสดงโฆษณาแต่ละครั้งด้วยการจัดสรรแบบไดนามิก ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มรายได้จาก Ad Exchange, AdSense, การเสนอราคาแบบเปิด และรายการโฆษณาส่วนที่เหลือให้สูงสุดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการแสดงรายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผล

การให้ Ad Exchange และ AdSense แข่งขันกับรายการโฆษณา Ad Manager อื่นๆ ของคุณมีข้อดีดังนี้

CPM ที่สูงกว่าสำหรับการแสดงผลของ Ad Exchange, AdSense และเครือข่ายโฆษณาอื่นๆ
Ad Exchange หรือ AdSense จะแสดงโฆษณาในกรณีที่ให้ CPM ที่สูงกว่ารายการโฆษณา Ad Manager อื่นๆ ของคุณได้เท่านั้น

เคล็ดลับในการจัดการการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพ

กำหนดอัตรา CPM ที่แม่นยำสำหรับรายการโฆษณา

การประกาศอัตรา CPM หรืออัตรา CPM มูลค่าที่ถูกต้องของรายการโฆษณาแต่ละรายการนั้นจำเป็นสำหรับให้ Ad Manager ตัดสินใจเลือกรายการโฆษณาที่ดีที่สุดที่จะแสดง

เมื่อเริ่มใช้งาน Ad Manager คุณใช้ CPM เฉลี่ยในอินเทอร์เฟซของเครือข่ายโฆษณาเป็นจุดเริ่มต้นของรายการโฆษณาที่แสดงถึงเครือข่ายโฆษณาได้
สําหรับรายการโฆษณาที่แสดงถึงดีลโดยตรงกับผู้ลงโฆษณา คุณควรกําหนด CPM ที่ถูกต้องซึ่งแสดงถึงมูลค่าของดีลด้วย
หากคุณใช้การแข่งขันที่เพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจะใช้ CPM ของรายการโฆษณามาตรฐานเป็นราคาพื้นสําหรับ CPM ชั่วคราวที่คํานวณสําหรับรายการโฆษณา
สําหรับรายการโฆษณาส่วนที่เหลือ การตั้งค่า CPM (หรือ CPC) ที่ถูกต้องจะช่วยให้ Ad Manager จัดสรรการแสดงผลไปยังดีลเหล่านี้ในลักษณะที่จะเพิ่มรายได้โดยรวมของคุณ

ในบางกรณี คุณอาจได้รับครีเอทีฟโฆษณารายการหนึ่งจากเครือข่ายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเครือข่ายอื่นๆ ในเนื้อหาบางส่วนของคุณ ในกรณีนี้ เราขอแนะนำให้คุณสร้างรายการโฆษณาแยกกันโดยกำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่โฆษณาที่ต่างกัน และให้รายการโฆษณาแต่ละรายการมีอัตรา CPM ที่ไม่ซ้ำกันเพื่อสะท้อนประสิทธิภาพของเครือข่ายโฆษณาบนพื้นที่โฆษณานั้นๆ โดยเฉพาะได้อย่างถูกต้อง

ตัวอย่าง

สมมติว่าคุณมีรายการโฆษณาเครือข่ายที่มีการดูแลการแสดงโฆษณาไปยังหน่วยโฆษณาในหน้าแรกและหน้ากีฬา CPM เฉลี่ยของรายการโฆษณานี้คือ $2.00 แต่เมื่อคุณรายงานตามหน่วยโฆษณา ก็พบว่าหน่วยโฆษณาในหน้าแรกให้ผลตอบแทน CPM $3.00 และหน่วยโฆษณาในหน้ากีฬาให้ผลตอบแทน CPM เพียง $1.50

ในกรณีนี้ คุณอาจต้องสร้างรายการโฆษณา 1 รายการที่กำหนดเป้าหมายเป็นหน่วยโฆษณาในหน้าแรกและมี CPM $3.00 และรายการโฆษณาอีก 1 รายการที่กำหนดเป้าหมายเป็นหน่วยโฆษณาในหน้ากีฬาที่มี CPM $1.50

กำหนดความถี่สูงสุดให้กับรายการโฆษณาของเครือข่ายโฆษณา

เครือข่ายเดียวไม่สามารถส่งโฆษณาให้กับคำขอโฆษณาทั้งหมดได้ และมูลค่าของการแสดงผลที่แสดงแก่ผู้ใช้คนเดียวกันจะมีมูลค่าลดลงเมื่อเวลาผ่านไป การใช้ความถี่สูงสุดสำหรับรายการโฆษณาเหล่านี้ให้คุณควบคุมความถี่ที่เครือข่ายโฆษณาจะแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้คนเดิม

เป้าหมายหนึ่งของคุณในฐานะผู้เผยแพร่โฆษณาคือการทำให้เครือข่ายโฆษณาทั้งหมดของตัวเองได้รับอัตราการส่งโฆษณาใกล้เคียง 100% มากที่สุด และสิ่งที่คุณใช้ควบคุมก็คือการกำหนดความถี่สูงสุดนั่นเอง

เริ่มต้นด้วยการกําหนดความถี่สูงสุดเป็นการแสดงผล 4 ครั้งต่อวัน หากพบว่าอัตราการแสดงผลพุ่งขึ้นเกือบ 100% ทันที แสดงว่าความถี่สูงสุดอาจกระชั้นเกินไปและคุณอาจพลาดการแสดงผลที่เครือข่ายโฆษณาจะแสดงได้ในกรณีที่คุณอนุญาตให้เครือข่ายได้รับการแสดงผลได้มากขึ้น
ในกรณีนี้ ให้กําหนดความถี่สูงสุดเป็นการแสดงผล 6 ครั้งต่อวัน และปรับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบว่าอัตราการส่งโฆษณาจะคงอยู่ในช่วง 90-100% อย่างต่อเนื่อง
หรือหากพบว่าอัตราการส่งโฆษณายังคงไม่อยู่ในช่วง 90-100% ให้ลองปรับความถี่สูงสุดให้กระชั้นยิ่งขึ้นเป็นการแสดงผล 2 ครั้งต่อวัน แล้วดูว่าอัตราการส่งโฆษณาดีขึ้นไหม

เครือข่ายส่วนใหญ่มีอัตราการส่งโฆษณาที่ผันผวนตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงต้องพิจารณาความถี่สูงสุดของตัวเองและปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น

อ่านเพิ่มเติม

เราขอแนะนำให้อ่านบทความต่อไปนี้หากต้องการทราบรายละเอียดของการเพิ่มประสิทธิภาพนี้

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร