Ad Manager จะเรียกเก็บเงินจากคุณโดยขึ้นอยู่กับว่ารายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นทั้งบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามหรือไม่ รวมทั้งดูว่ารายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้อย่างไร รายการโฆษณาจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายและคีย์-ค่าด้วย 1 ใน 3 วิธีเหล่านี้ ได้แก่
- ไม่รายการใดก็รายการหนึ่ง (OR)
- มากกว่า 1 กลุ่มหรือ 1 คีย์-ค่าในเวลาเดียวกัน (AND)
- และอย่างน้อย 1 กลุ่มหรือคีย์-ค่า แต่ต้องไม่ใช่อีกอย่างหนึ่ง (is none of)
กำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยความสัมพันธ์แบบOR
เมื่อรายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมายในความสัมพันธ์แบบ OR และผู้เข้าชมเป็นสมาชิกของกลุ่มอย่างน้อย 1 กลุ่ม เซิร์ฟเวอร์โฆษณาจะเลือกกลุ่มที่ราคาถูกที่สุด หากรายการโฆษณากำหนดเป้าหมายตามกลุ่มหรือคีย์-ค่า และผู้เข้าชมตรงกับที่กำหนดเป้าหมายไว้ทั้ง 2 แบบ เราจะเรียกเก็บเงินคุณสำหรับกลุ่มดังกล่าวเพราะไม่ทราบว่ามีการใช้กลุ่มหรือคีย์-ค่านั้นในขั้นตอนการเลือกโฆษณาหรือไม่ หากมีการเชื่อมโยงหลายกลุ่มเพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุด เซิร์ฟเวอร์โฆษณาจะสุ่มเลือกมา 1 กลุ่ม
ตัวอย่าง
ดูว่าเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์การกำหนดเป้าหมายที่แตกต่างกัน
-
รายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมาย "กลุ่ม A หรือกลุ่ม B" และผู้เข้าชมอยู่ในกลุ่ม A เท่านั้น: จะมีการเรียกเก็บเงินคุณสำหรับกลุ่ม A ไม่ว่ากลุ่ม A จะเป็นบุคคลที่หนึ่งหรือบุคคลที่สามก็ตาม
-
รายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมาย "บุคคลที่หนึ่งกลุ่ม 1 หรือบุคคลที่หนึ่งกลุ่ม 2" และผู้เข้าชมอยู่ในทั้ง 2 กลุ่ม: เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่หนึ่งทั้งหมดมีต้นทุนเท่ากัน Ad Manager จะสุ่มเลือก 1 กลุ่มและจะมีการเรียกเก็บเงินคุณสำหรับกลุ่มดังกล่าวเท่านั้น
-
รายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมาย "บุคคลที่สามกลุ่ม 1 หรือบุคคลที่สามกลุ่ม 2" และผู้เข้าชมอยู่ในทั้ง 2 กลุ่ม: Ad Manager จะเลือกกลุ่มที่มีต้นทุนถูกกว่า
-
รายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมาย "บุคคลที่หนึ่งกลุ่ม 1 และบุคคลที่สามกลุ่ม 1" และผู้เข้าชมอยู่ในทั้ง 2 กลุ่ม: จะมีการเรียกเก็บเงินคุณสำหรับบุคคลที่หนึ่งกลุ่ม 1 เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่หนึ่งจะมีต้นทุนถูกกว่ากลุ่มบุคคลที่สามเสมอ
กำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยความสัมพันธ์แบบ AND
เมื่อรายการโฆษณากำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยความสัมพันธ์แบบ AND ผู้ใช้ต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดเพื่อให้รายการโฆษณาแสดงได้สำเร็จ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากคุณในกรณีที่มีการแสดงรายการโฆษณาเท่านั้น การเรียกเก็บเงินสำหรับกลุ่มที่มีความสัมพันธ์แบบ AND ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มบุคคลที่หนึ่งหรือบุคคลที่สาม
กลุ่มบุคคลที่หนึ่ง
หากรายการโฆษณาแสดงโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มบุคคลที่หนึ่งหลายกลุ่ม และผู้ใช้รายหนึ่งอยู่ในกลุ่มเหล่านั้นมากกว่า 1 กลุ่ม ระบบจะสุ่มเลือกกลุ่มมา 1 กลุ่มเพื่อจุดประสงค์ในการเรียกเก็บเงิน การแสดงผลครั้งใดก็ตามจะมีการระบุแหล่งที่มาเป็นมาจากกลุ่มเดียวเท่านั้น อัตรา CPM สำหรับกลุ่มบุคคลที่หนึ่งจะแตกต่างกันไปตามสัญญา
การเรียกเก็บเงินเหล่านี้จะปรากฏใต้มิติข้อมูล "กลุ่มเป้าหมาย (ที่เรียกเก็บเงินได้)" ในการรายงาน
กลุ่มบุคคลที่สาม
หากรายการโฆษณาแสดงโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มบุคคลที่สามหลายกลุ่ม และผู้ใช้รายหนึ่งอยู่ในกลุ่มเหล่านั้นมากกว่า 1 กลุ่ม ระบบจะเรียกเก็บเงินจากทุกกลุ่มที่มีผู้ใช้รายนั้นอยู่ สำหรับการแสดงผลครั้งใดก็ตาม อาจมีการระบุแหล่งที่มาหลายแหล่ง
ผู้ให้บริการข้อมูลบุคคลที่สามเป็นผู้กำหนดอัตรา CPM และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาหรือข้อกำหนดของคุณ โปรดติดต่อผู้ให้บริการหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับอัตราค่าบริการหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
วิธีดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับการใช้กลุ่มบุคคลที่สาม
บทบาทของคุณจะต้องมีสิทธิ์ในการดูข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงินเพื่อดำเนินการตามด้านล่าง
- ไปที่การเรียกเก็บเงิน ใบแจ้งหนี้
- จากหน้า "การชำระเงิน" เริ่มแรก ให้คลิกดูใบแจ้งหนี้เพื่อไปที่การชำระเงิน เอกสาร
- เลือกใบแจ้งหนี้จากตารางใบแจ้งหนี้ที่มีอยู่
- คลิกดาวน์โหลดรายการที่เลือก
- จากกล่องโต้ตอบ "ดาวน์โหลดเอกสาร" ให้เลือกรูปแบบในการดาวน์โหลด
- คลิกดาวน์โหลด
ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาอาจมีรายการโฆษณาต่อไปนี้เพื่อใช้ในการเรียกเก็บเงินจากกลุ่มบุคคลที่สาม
การแสดงโฆษณา: กลุ่มบุคคลที่สามที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
ดูรายละเอียดแยกตาม CPM หรือการแสดงผลไม่ได้เนื่องจากอาจมีการระบุแหล่งที่มาหลายแหล่งสำหรับการแสดงผลครั้งเดียว โปรดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจากผู้ให้บริการข้อมูลบุคคลที่สาม
กลุ่มของบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม
หากรายการโฆษณาแสดงโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเป็นทั้งกลุ่มบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม และผู้ใช้อยู่ในกลุ่มดังกล่าวอย่างน้อย 1 กลุ่ม จะมีการเรียกเก็บเงินจากคุณตามวิธีที่อธิบายข้างต้น
กำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยความสัมพันธ์แบบ is none of
รายการโฆษณาสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลที่หนึ่งหรือบุคคลที่สามอย่างน้อย 1 กลุ่มในความสัมพันธ์แบบ is none of (ไม่อยู่ใน)
-
is none of กลุ่ม A: หากผู้เข้าชมเป็นสมาชิกของกลุ่ม A รายการโฆษณาจะไม่แสดง
-
is none of(กลุ่ม A หรือกลุ่ม B): หากผู้เข้าชมเป็นสมาชิกของกลุ่ม A หรือกลุ่ม B รายการโฆษณาจะไม่แสดง
-
is none of (กลุ่ม A และกลุ่ม B): หากผู้เข้าชมเป็นสมาชิกของทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B รายการโฆษณาจะไม่แสดง
เช่นเดียวกับความสัมพันธ์แบบ AND หากมีการแสดงรายการโฆษณา เราจะเรียกเก็บเงินสำหรับทุกกลุ่มที่กำหนดเป้าหมายไปซึ่งผู้ใช้ไม่ได้อยู่ ไม่ว่ากลุ่มนั้นจะเป็นบุคคลที่หนึ่งหรือบุคคลที่สาม
ตัวอย่าง
หากรายการโฆษณากำหนดเป้าหมายแบบ "is none of (กลุ่ม A หรือกลุ่ม B)" เป็นการบอกเซิร์ฟเวอร์โฆษณา "ไม่ให้แสดงรายการโฆษณาใดๆ ที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่ม A หรือกลุ่ม B" หากกลุ่ม A และกลุ่ม B เป็นกลุ่มบุคคลที่สามทั้งคู่ และผู้เข้าชมไม่อยู่ในกลุ่ม A หรือกลุ่ม B เราจะเรียกเก็บเงินสำหรับทั้ง 2 กลุ่ม